วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550

พระทีปังกรพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าพระองค์ที่สี่ในสารมัณฑกัลป์ คือนับย้อนจากพระศากยมุนีพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ย้อนขึ้นไป25พระองค์ และเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกที่พยากรณ์พระศากยมุนีพุทธเจ้า เมื่อครั้งยังเสวยชาติเป็นโพธิสัตว์ชื่อ สุเมธดาบส ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
"....เราสยายผมแล้วเอาผ้าคากรองและหนังสัตว์ลาดลงบนเปือกตม นอนคว่ำลง ณ ที่นั้น ด้วยคิดว่า พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวก จงทรงเหยียบเราเสด็จไปเถิด อย่าทรงเหยียบเปือกตมนั้นเลย ข้อนั้นจักเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เรา เมื่อเรานอนอยู่ที่พื้นดิน ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า เรา(มิได้)ปรารถนาว่า วันนี้ พระพุทธเจ้าพึงทรงเผากิเลสของเราประโยชน์อะไรแก่เราด้วยเพศที่ใครๆ ไม่รู้จัก และด้วยการทำให้แจ้งซึ่งธรรม ณ ที่นี้ เราพึงบรรลุสัพพัญญุตญาณหลุดพ้นแล้วพึงเปลื้องหมู่สัตว์พร้อมทั้งเทวดาให้หลุดพ้นเถิด ประโยชน์อะไรด้วยเราผู้เป็นคนมีกำลังจะข้ามไปคนเดียวเล่า เราบรรลุสัพพัญญุตญาณได้ และจะช่วยหมู่ชนให้ข้ามได้เป็นอันมาก...."
"....พระพุทธทีปังกรผู้ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชาประทับยืนอยู่เหนือศีรษะเรา ตรัสพระดำรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดูชฎิลดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้ เขาจักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกในกัปอันประมาณมิได้แต่กัปนี้...."
(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ทีปังกรพุทธวงศ์)


สุเมธดาบส สยายผมลงบนโคลนให้พระทีปังกรพุทธเจ้าเสด็จเหยียบข้ามไป ประติมากรรมศิลปะคันธาระ ปัจจุบันอยูที่พิพิธภัณฑ์กรุงคาบูล อัฟกานิสถาน


พระทีปังกรพุทธเจ้าศิลปะเนปาล พุทธศตวรรษที่22-23 พิพิพธภัณฑ์ปาตาน,เนปาล
ในเนปาล บางครั้งถือว่าพระทีปังกรพุทธเจ้าเทียบเท่ากับอาทิพุทธพระองค์หนึ่ง และยังเป็นพระผู้คุ้มครองในอาชีพค้าขายด้วย ดังนั้นจึงมีการบูชาพระองค์กันอย่างแพร่หลาย

ไม่มีความคิดเห็น: